




30/12/2015
1.1 นรม. Abe / นรม. Li Keqiang / ปธน. ปัก ปช. ระดับผู้นำ 3 ฝ่าย ครั้งที่ 6
เมื่อ 1 พ.ย. 58 เวลา 14.00 - 15.30 น. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยมี รมว. กต. ของทั้ง 3 ประเทศเข้าร่วมด้วย
1.2 ในภาพรวม ผู้นำทั้งสามเห็นพ้องให้จัดประชุมระดับผู้นำเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง
ชื่นชมการทำงานเพื่อความร่วมมือ รวปท. ในหลาย ๆ ด้านของ Trilateral Cooperation Secretariat (TCS) / หารือถึงสถานการณ์ความร่วมมือในปัจจุบันและทิศทางความร่วมมือในอนาคต โดยเห็นพ้องที่ควรจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านการรับมือภัยพิบัติ, สิ่งแวดล้อม, การแลกเปลี่ยนด้านเยาวชน และ ศก. / เห็นพ้องให้เร่งหาข้อตกลงทาง ศก. (FTA จีน-กลต.ญี่ปุ่น และ RCEP) ให้ได้โดยเร็ว บนความมีมาตรฐานที่สูง เพื่อให้เป็นเสาหลักของการรวมตัวทาง ศก. ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
1.3 ประเด็นและข้อตกลงสำคัญของการหารือ มีดังนี้
1.4 ปัญหาประวัติศาสตร์ นรม. Abe แสดงท่าที ดังนี้
(1) ยืนยันตามที่ได้กล่าวในแถลงการณ์ในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อเดือน ส.ค. 58
(2) ยืนยันว่าจะมองประวัติศาสตร์อย่างตรงไปตรงมา และจะร่วมมือเพื่อก้าวไปสู่อนาคต
(3) การ focus ไปยังประวัติศาสตร์บางส่วนแต่เพียงอย่างเดียวไม่เป็นการสร้างสรรค์ ญป.-กลต. / ญป.-จีน ต่างมีประวัติศาสตร์ที่เคยร่วมมือและพัฒนามาด้วยกัน จากนี้ไปจะสานต่อประวัติศาสตร์ความร่วมมือระหว่างกันอย่าง positive
1.5 ภายหลังการประชุมฯ ผู้นำทั้ง 3
ได้แถลงข่าวร่วม และออกปฏิญญาที่จะร่วมกันเสริมสร้างสันติภาพใน อช. ตอ. (Joint Declaration for Peace and Cooperation in Northeast Asia) 1 ฉบับ นอกจากนี้ ยังมีการแถลงการณ์ร่วมในด้านต่าง ๆ 5 ฉบับ ได้แก่
(1) สิ่งแวดล้อม
(2) ศก. และการค้า
(3) ความร่วมมือด้านศุลกากรเพื่อความราบรื่นในการค้า
(4) ความร่วมมือด้านการเกษตร และ
(5) ความร่วมมือด้านการศึกษา
1.6 ทปช. มีมติให้จัด ปช. ระดับผู้นำ ญป.-จีน-กลต. ครั้งที่ 7 ขึ้นในปีหน้าที่ ญป.
2.1 ระดับผู้นำ ระหว่าง นรม. Abe กับ นรม. Li Keqiang เมื่อ 1 พ.ย. 58 ประมาณ 1 ช.ม.
- ทั้งสองเห็นพ้องว่า คสพ.ญป. – จีน มีทิศทางที่ดีขึ้น และควรรักษา momentum ของ คสพ. ดังกล่าว และเห็นว่า ต่างมีความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงต่อสันติภาพและความรุ่งเรืองของประชาคมโลก จึงมีความสำนึกร่วมกันที่จะเร่งฟื้นฟู คสพ. ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
(1) จัดทำนโยบายเชิงบวก (positive) และส่งเสริมการฟื้นฟู คสพ. ต่อกัน
(2) แก้ไขประเด็นข้อห่วงกังวลบนพื้นฐานข้อตกลงที่เคยมีร่วมกันในอดีต
(3) ดำเนินงานตามนโยบายอย่างเป็นรูปธรรมตามข้อตกลงที่มีร่วมกันเมื่อปี ค.ศ. 2008 โดยเฉพาะประเด็น “เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือ ไม่เป็นภัยคุกคามซึ่งกันและกัน” และ
(4) กระชับความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้าน ศก. และอื่นๆ
- ผลการหารือที่เป็นรูปธรรมซึ่งผู้นำทั้งสองเห็นพ้องกัน ได้แก่
(1) ยืนยันความจำเป็นของการแลกเปลี่ยนระดับสูง รวมถึงการรื้อฟื้นการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับ รมว. กต.
(2) จัดการหารือด้าน ศก. ในระดับสูงในช่วงต้นปี 2559
(3) พยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ในการเริ่มใช้กลไลการประสานงานทางอากาศและทะเล (Maritime and Aerial Communication Mechanism between the Japan-China defense authorities) ระหว่าง กห. โดยเร็ว
(4) เริ่มการหารือบนพื้นฐาน “ข้อตกลงปี ค.ศ. 2008” ในประเด็นการพัฒนาทรัพยากรในทะเลจีน ตอ. และ
(5) กระชับความร่วมมือด้าน ศก. และการคลัง
2.2 ระดับ รมว. กต. เมื่อ 1 พ.ย. 58 ประมาณ 1 ช.ม.
ซึ่งเป็นการหารือเพื่อเตรียมการก่อนการพบกันระหว่างผู้นำทั้งสองในช่วงเย็นของวันเดียวกัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อฟื้นฟู คสพ.
3.1 ระดับผู้นำ ระหว่าง รมว. Abe และ ปธน. Park Geum-hye เมื่อ 2 พ.ย. 58 ประมาณ 1 ชม. 45 นาที
แบ่งเป็นหารือระหว่างผู้นำและ จนท. กลุ่มเล็กเป็นเวลา 1 ช.ม. หลังจากนั้นอีก 45 นาที เป็นการหารือในกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น
(1) การหารือกลุ่มเล็ก
ผู้เข้าร่วม ฝ่าย ญป. ได้แก่ นรม. / รมว. กต. / นาย Koichi Hagiuda รอง ลขธ. ครม. / นาย Shotaro Yachi ผอ. สภาความมั่นคงแห่งชาติ ฝ่าย กลต. ได้แก่ ปธน. / หน. ฝ่ายเลขา ปธน. / รมว. กต. / นาย Kim Kyou Hyun, Senior Secretary to the President for Foreign Affairs and National Security at the Blue House
สาระสำคัญ ได้แก่
(2) ผลการหารือกลุ่มใหญ่
3.2 ระดับ รมว. กต.
เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 58 เป็นเวลาประมาณ 50 นาที โดยถือเป็นการพบหารือระหว่างกันเป็นครั้งที่ 9 และ เพื่อเตรียมการก่อนการพบกันระหว่างผู้นำ โดย รมว. กต. ญป. ยกประเด็นการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานพลเรือนเกาหลีในช่วงสงคราม / มาตรการที่เข้มงวดของ กลต. ต่อการนำเข้าสินค้าประมงจาก ญป. / ปัญหาการฟ้องร้องอดีต ผอ. นสพ. Sankei สนง. กรุงโซล / ปัญหาเกาะ Takeshima ในขณะที่ รมว. กต. กลต. ยกประเด็นปัญหา comfort woman ซึ่ง รมว. กต. ทั้งสองยืนยันที่จะหารือกันในระดับอธิบดีต่อไป