กล้วยไทย ตอนที่ 3 กินกล้วยดีมีประโยชน์

24/11/2009

กินกล้วยดีมีประโยชน์

สำหรับคนไทยแล้ว กล้วยเป็นผลไม้หาทานได้ง่าย ราคาถูก

นอกจากกล้วยหอมทองแล้ว มีกล้วยอีกหลายชนิดให้คนไทยได้เลือกรับประทาน ซึ่งญี่ปุ่นยังไม่ค่อยรู้จัก เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุก กล้วยเล็บมือนาง เป็นต้น

แต่กล้วยที่คนไทยรู้จักและทานกันในครัวเรือนมากที่สุด
น่าจะเป็น กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ และกล้วยหอม
แล้วรับประทานกล้วยดีอย่างไรกัน?

กล้วยเป็นสมุนไพรพื้นบ้านและยารักษาโรค

กล้วย เป็นอาหารให้พลังงานชนิดหนึ่ง ทานได้ดีในเวลาท้องว่างเพราะจะให้พลังงานที่พอเพียงในชีวิตประจำวันได้ดี โดยเฉพาะนักกีฬา จะรับประทานกล้วยเพื่อให้พลังงานให้กับร่างกายทันที มีการวิจัยพบว่า การรับประทานกล้วย 2 ผลจะเพิ่มพลังงานได้เพียงพอต่อการออกกำลังกายได้นาน 90 นาที และการกินกล้วยเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายกระฉับกระเฉง (เพราะกล้วยให้พลังงาน) อารมณ์ดีและช่วยให้ไม่เครียด

พิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์แล้ว กล้วยมีสารสำคัญเป็นส่วนประกอบมากมาย เช่น สารโปแตสเซียม ประมาณ 370 มิลลิกรัม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรตสูง มีน้ำตาล 3 ชนิด คือ กลูโคส ฟรุตโตส และซูโคลส ร่างกายจึงได้รับประโยชน์มากมายจากกล้วย ทั้งให้พลังงานและช่วยเสริมสร้างร่ายกายให้แข็งแรง

กินกล้วยคลายเครียด

มีการวิจัยพบว่า หากกินกล้วยสัปดาห์ละ 2 ผล จะช่วยลดความดันโลหิตได้ร้อยละ 10 เพราะเอ็นไซม์ในกล้วยจะช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น เพราะในกล้วยมีสารโปแตสเซียมสูงแต่ปริมาณเกลือต่ำ ทำให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ ช่วยให้การส่งออกซิเจนไปสมองได้ดี และจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเกิดความเครียด ทำให้ไม่เครียด

กล้วยยังมีโปรตีนชนิด try potophan ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสาร serotonin ที่จะช่วยผ่อนคลายและปรับปรุงอารมณ์ให้มีความสุขขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขอาการของโรคซึมเศร้าได้

นอกจากนี้ กล้วยมีคุณสมบัติควบคุมการเต้นของหัวใจ และเป็นผลไม้ไม่กี่ชนิดที่มีสารโครเมี่ยม ที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

กล้วยเพิ่มประสิทธิภาพสมอง

มีข้อมูลวิจัยว่า นักเรียน 200 คนของโรงเรียน Twickenham มีผลการสอบดีเพราะรับประทานกล้วยในมื้อเช้า เวลาพัก และมื้อกลางวันทุกวัน สารโปแตสเซียมในกล้วยทำให้สมองตื่นตัวมากขึ้นเป็นการเพิ่มกำลังสมองสำหรับเด็กวัยเรียน (วารสารอโศก ฉบับ 261 มิถุนายน 2546)

กล้วยแก้โรคท้องผูก

กล้วยมีสารเปคติน (pectin) อยู่มาก จึงช่วยเพิ่มกากอาหาร และมีเมือกช่วยให้ถ่ายสะดวก ผู้ที่ท้องผูกเป็นประจำหากกินกล้วยต่อเนื่องจะช่วยไม่ให้ท้องผูก นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาลำไส้ใหญ่อักเสบควรรับประทานกล้วยสุก เพราะสารเปคตินนอกจากช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้แล้ว กล้วยยังช่วยเคลือบผนังลำไส้ นอกจากนี้ กล้วยยังมีฤทธิ์ทางปฏิชีวนะ สามารถฆ่าเชื้อได้ จึงเท่ากับเป็นการรักษาร่างกายให้แข็งแรงด้วย

กล้วยแก้โรคท้องร่วง

กรณีท้องเสีย ให้กินกล้วยดิบหรือกล้วยห่าม เพราะในกล้วยมีสารฝาดสมานหรือแทนนิน ที่จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค หากทานกล้วยน้ำว้าห่ามๆ ครั้งละ ½-1 ผล หรือใช้กล้วยน้ำว้าดิบฝานเป็นแว่นบางๆ ตากแห้ง ½-1 ผล บดเป็นผงใช้ชงดื่ม อาจรับประทานกับน้ำขิงหรือพริกไทยเพื่อลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้

กล้วยแก้เจ็บคอ

เมื่อเจ็บคอ มีอาการไอ เจ็บหน้าอก คอแห้ง อาการเหล่านี้อาจจะไม่จำเป็นต้องกินยาแผนปัจจุบัน หากกินกล้วยวันละ 4-6 ลูก โดยแบ่งกินตลอดวัน จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและเจ็บหน้าอกที่เกิดจากอาการไอได้

กล้วยรักษากระเพาะ

กล้วยเป็นผลไม้ที่ช่วยบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อยในกระเพาะได้ดี ดังนั้นการรับประทานกล้วยเป็นประจำจะทำให้กระเพาะแข็งแรง ปัญหากรดในกระเพาะจะลดลง ผู้ที่มีปัญหาแผลในกระเพาะจะมีอาการบรรเทาขึ้น

กล้วยบำรุงระบบประสาท

วิตามินบีที่มีในกล้วย จะช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทให้คงที่เมื่อเกิดสภาวะอารมณ์ไม่ปกติที่เกิดจากความตึงเครียด นอกจากนี้ กล้วยที่มีวิตามินบี 6 จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้ดี

กินกล้วยเพื่อความงาม

เชื่อหรือไม่ว่า ผลไม้ทานง่ายเช่นกล้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระ คือ เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และช่วยให้ผิวพรรณดี ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม รับประทานกล้วยจะทำให้ผิวพรรณดี หากกินกล้วยก่อนการแปรงฟันติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ กลิ่นปากจะหายไป

กล้วยเป็นผลไม้ให้พลังงานอย่างดี เหมาะกับการรับประทานในขณะที่ร่างกายต้องการพลังงานเฉียบพลันเพื่อกระตุ้นให้สมองและร่างกายทำงานอย่างกระชับกระเฉง เพราะกล้วยสุกมีคาร์โบไฮเดรตสูงถึงร้อยละ 22 อุดมด้วยน้ำตาล 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโตส และกลูโคส

จึงเป็นผลไม้ที่ให้พลังงาน การกินกล้วยแทนอาหารเย็นเพื่อลดความอ้วนจึงไม่น่าเหมาะสม เพราะคาร์โบไฮเดรตจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล สะสมเป็นไขมันส่วนเกินในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของความอ้วนได้

นอกจากนี้ การรับประทานกล้วยเพียงอย่างเดียวเพื่อลดน้ำหนักรวมทั้งการรับประทานไม่ครบหมวดหมู่จะไม่ช่วยลดน้ำหนักตามต้องการได้ การลดน้ำหนักที่เหมาะสมต้องควบคุมปริมาณอาหารและรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน พร้อมกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

กล้วยรักษาโรคโลหิตจาง

กล้วยน้ำว้าห่ามและสุกมีธาตเหล็กในปริมาณสูง ช่วงสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง รวมทั้งป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันสำหรับเด็กเล็ก นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่ช่วยบำรุงกระดูก ฟันและเหงือกให้แข็งแรงได้