อาหารไทยสูตรพิเศษโดยแม่ครัวทำเนียบ ตอนที่ 2 (แกงเผ็ดหมูย่างใส่องุ่น+หลนเต้าเจี้ยว+สาคูเมล่อน)

19/10/2009

ตอนที่ 2 : แกงเผ็ดหมูย่างใส่องุ่น+หลนเต้าเจี้ยว+สาคูเมล่อน

หลังจากที่ทางเราได้นำเสนออาหารไทยสูตรพิเศษโดยแม่ครัวทำเนียบ ตอนที่ 1 ปรากฏว่าเมนูอาหารไทยของคุณสุปราณีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทางฝ่ายสารนิเทศ จึงขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจมา ณ ที่นี้ค่ะ สำหรับอาหารไทยสูตรพิเศษโดยแม่ครัวทำเนียบ ตอนที่ 2 นี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอนำเสนอเมนูอาหารไทยที่ใช้ผักและผลไม้ประจำฤดูร้อนที่คุณสุปราณีคิดค้นขึ้นเป็นพิเศษ ลองทำกันดูนะคะ


แกงเผ็ดหมูย่างใส่องุ่น

แกงเผ็ดหมูย่างใส่องุ่นเป็นเมนูที่คุณสุปราณีคิดค้นขึ้นมาเอง รสเปรี้ยวขององุ่นและรสหวานของหมูย่างนั้นจะช่วงให้แกงเผ็ดรสจัดมีรสชาติที่นุ่มนวลและกลมกล่อมขึ้น


ส่วนประกอบ (สำหรับ 3-4 ที่)

หมูย่าง 500 กรัม
มะเขือเทศผลเล็ก 100 กรัม
องุ่นเขียว 200 กรัม
น้ำกะทิ (กระป๋อง) 1 กระป๋อง
เครื่องแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลทราย) 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
ใบมะกรูด 2 ใบ
โหระพา เล็กน้อย
พริกหยวกแดง ¼ ลูก
แบ่งหัวกะทิและหางกะทิออกจากกัน และนำหางกะทิผสมกับน้ำเตรียมไว้

วิธีทำ

  1. ผัดหัวกะทิและเครื่องแกงเข้าด้วยกันด้วยไฟอ่อน
  2. ใส่หางกะทิที่ผสมน้ำเตรียมไว้ลงไปเล็กน้อย แล้วผัดจนกะทิแตกมัน
  3. เมื่อเริ่มได้กลิ่นหอมของแกง ใส่หมูลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน
  4. ปรุงรสด้วยใบมะกรูด น้ำตาลปี๊บ (หรือน้ำตาลทราย) และน้ำปลา
  5. ค่อยๆใส่หางกะทิที่เหลือลงไปทีละนิด แล้วผัดต่อไปเรื่อยๆ จนหมูย่างและเครื่องแกงเข้ากันดี
  6. ใส่องุ่นและมะเขือเทศลงไป แล้วตั้งไฟไปจนกว่าจะสุก
  7. ใส่พริกหยวกแดงและโหระพาลงไป แล้วปิดไฟทันที จากนั้นตักใส่ถ้วยและตกแต่งให้สวยงาม

วิธีทำหมูย่างและส่วนประกอบ

เนื้อหมู 500 กรัม
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

  1. หมักเนื้อหมูด้วยน้ำตาลและซีอิ๊วขาว ประมาณ 30 นาที
  2. ใส่น้ำมันลงไปในกระทะที่ร้อน แล้วนำหมูลงไปย่าง
  3. ย่างต่อไปจนเนื้อหมูสุกพอประมาณ

หลนเต้าเจี้ยว

หลนเต้าเจี้ยวอาจเป็นอาหารที่ไม่ค่อยเป็นที่คุ้นเคยนักสำหรับคนญี่ปุ่น แต่เป็นอาหารที่มีรสชาติที่นุ่มนวลรับประทานง่าย และคุณสุปราณีได้คิดสูตรการทำหลนเต้าเจี้ยวโดยใช้มิโซของญี่ปุ่นมาทำแทน ซึ่งทำให้ได้รสชาติที่ถูกปากคนญี่ปุ่นมากขึ้น และหลนเต้าเจี้ยวสูตรมิโซนี้ ยังนับเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ สามารถรับประทานจิ้มกับผักต่างๆ ได้อย่างเอร็ดอร่อยทีเดียวค่ะ


ส่วนประกอบ (สำหรับ 3-4 ที่)

หมูสับ ½ ถ้วย
กุ้งสับ ½ ถ้วย
น้ำกะทิ(กระป๋อง) 1 ½ ถ้วย
มิโซขาวชนิดหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย ½ ถ้วย
พริกเขียวและพริกแดง 10 เม็ด
น้ำตาล ¼ ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
ผักสดตามชอบ
(เช่น กะหล่ำปลี แครอท ถั่วฝักยาว แตงกวา มะเขือเปราะ เป็นต้น)

วิธีทำ

  1. นำกะทิใส่ลงในหม้อแล้วตั้งไฟอ่อน ๆ
  2. ใส่หมูสับและกุ้งสับลงไปก่อนที่กะทิจะเดือด แล้วคนให้เข้ากัน
  3. เมื่อหมูสับและกุ้งสับเริ่มสุก ใส่มิโซลงไปแล้วคนให้ทั่ว ระวังอย่าให้เนื้อจับเป็นก้อน
  4. เมื่อเดือดแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลทรายตามลำดับ
  5. ใส่หอมแดงลงไป เมื่อหอมแดงเริ่มสุก ให้ใส่พริกลงไปแล้วปิดไฟทันที
  6. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งให้สวยงาม เสิร์ฟพร้อมกับผักสด

สาคูเมล่อน

สำหรับของหวานในตอนที่ 2 เราขอแนะนำสาคูเมล่อนที่ม่สีสันสดใสเหมาะกับบรรยากาศหน้าร้อนนี้ มาลองลิ้มรสชาติของเมล่อนผลไม้ฤดูร้อนกับน้ำกะทิหวานๆแบบไทยกันดูสิคะ


ส่วนประกอบ (สำหรับ 3-4 ที่)

สาคู 50 กรัม
เมล่อนเขียว (หั่นให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 0.5 ซม.) ½ ถ้วย
เมล่อนแดง ½ ลูก
กะทิผง 60 กรัม
มะพร้าวอ่อน ½ ถ้วย
น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
เกลือ เล็กน้อย

  1. ตักเมล่อนแดงให้เป็นลูกกลมๆ เตรียมไว้
  2. นำเมล่อนส่วนที่เหลือมาปั่นให้เป็นน้ำเมล่อน (ประมาณ 200 มล.)

วิธีทำ

  1. ต้มน้ำ (5 ถ้วย) จนเดือด แล้วใส่สาคูลงไป ต้มต่อไปประมาณ 15 นาทีจนสาคูสุก จากนั้นนำไปแช่ในน้ำสะอาด
  2. ใส่ผงกะทิในน้ำอุ่น 300 มล. แล้วคนจนกว่าจะละลายเข้ากัน
  3. เติมน้ำตาลและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน แล้วทิ้งไว้จนเย็น
  4. นำน้ำเมล่อนทำเตรียมไว้มาผสมรวมกับน้ำกะทิ
  5. ใส่สาคูและเมล่อนเขียวลงไป แล้วคนเบาๆ ให้เข้ากัน
  6. ตักใส่ถ้วย แล้วตกแต่งด้วยมะพร้าวอ่อนและเมล่อนแดงที่เตรียมไว้ เสิร์ฟหลังจากแช่เย็นแล้ว หรือจะรับประทานกับน้ำแข็งก็ได้