สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2563

❖ ในวันที่ 12 สิงหาคม ผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศญี่ปุ่นจำนวน 979 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่น 51,427 คน โดยจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ 

(1) กรุงโตเกียว 222 คน 

(2) จังหวัดโอซากา 184 คน 

(3) จังหวัดไอจิ 86 คน 

(4) จังหวัดฟูกูโอกะ 77 คน 

(5) จังหวัดคานากาวะ 66 คน รายละเอียดตามเอกสารแนบ

❖ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม กรุงโตเกียวมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รวม 222 คน โดยเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปี รวม 135 คน หรือประมาณร้อยละ 61 จากจำนวนทั้งหมด และมีอายุระหว่าง 80-89 ปี รวม 11 คน / ร้อยละ 67 จากจำนวนทั้งหมด ไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ / ร้อยละ 33 ที่ติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจากงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อน ติดจากสมาชิกในครอบครัว และติดจากที่ทำงาน / ผู้รักษาในโรงพยาบาล 1,659 คน ลดลง 51 คนจากวันก่อนหน้า โดยเป็นผู้ป่วยอาการรุนแรง 21 คน

❖ พบการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ได้แก่ ชมรมฟุตบอลของโรงเรียน Rissho University Shonan ในเมืองมัทสึเอะ จังหวัดชิมาเนะ (102 คน) / นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ของสโมสรฟุตบอล Sagan Tosu จังหวัดซากะ (10 คน) / นักกีฬาว่ายน้ำและผู้ฝึกสอนของมหาวิทยาลัย Nihon University กรุงโตเกียว (กว่า 10 คน) / ลูกค้าและพนักงานบริการในร้านผับฟิลิปปินส์ในย่านนิชิคะไซ เขตเอโดกาวะ กรุงโตเกียว (8 คน)

❖ นาย NISHIMURA Yasutoshi รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงขอความร่วมมือผู้มีอาการป่วยไม่ออกจากที่พัก และงดร่วมกิจกรรมกลุ่ม

❖ จังหวัดโอกินาวามีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในระหว่างวันที่ 4-10 สิงหาคม คิดเป็นจำนวน 42.90 คน ต่อประชากร 100,000 คน มากกว่ากรุงโตเกียวเกิน 2 เท่า (16.81 คน ต่อประชากร 100,000 คน) ขณะนี้ มีผู้สูงอายุและผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงจำนวนมากขึ้น โดยสถานะ ณ วันที่ 11 สิงหาคม มีการใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรงไปแล้วกว่าร้อยละ 80

❖ มหาวิทยาลัยแพทย์โทโฮคุแนะนำการลดความเสี่ยงการติดเชื้อฯ ระหว่างการเดินทางโดยใช้รถยนต์ในช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลโอบ้ง (เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ) ดังนี้

- เปิดหน้าต่างขนาดความกว้างประมาณ 5 ซม. ด้านทแยงมุม 2 บาน ได้แก่ ด้านฝั่งคนขับ และด้านหลังของที่นั่งข้างคนขับ
- ทำความสะอาดฆ่าเชื้อพวงมาลัยและที่จับประตูทุกครั้งที่ขึ้นและลงจากรถยนต์
- หากอยู่ภายในรถยนต์กับครอบครัวที่ใช้ชีวิตด้วยกันเป็นประจำอาจไม่ต้องใส่หน้ากาก แต่หากร่วมรถยนต์กับญาติที่ไม่ได้พบกันมานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย
- ควรล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังซื้อของที่ระลึกที่จุดพักบริการ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีคนหนาแน่น และใช้บริการซื้อกลับบ้านแทน