- กรุงโตเกียว 258 คน ลดลงจากวันก่อนหน้าที่มีผู้ติดเชื้อ 339 คน
- จังหวัดโอซากา 166 คน
- จังหวัดฟูกูโอกะ 87 คน
- จังหวัดคานากาวะ 82 คน
- จังหวัดไอจิ 82 คน
- จังหวัดชิบะ 54 คน
❖ ในวันที่ 20 สิงหาคม ผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ ญี่ปุ่น จำนวน 1,185 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่น 60,033 คน / ผู้ป่วยอาการรุนแรง 237 คน / ผู้เสียชีวิต 1,160 คน เพิ่มขึ้น 11 คนจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด ได้แก่
(1) กรุงโตเกียว 339 คน
(2) จังหวัดโอซากา 132 คน
(3) จังหวัดคานากาวะ 104 คน
(4) จังหวัดไอจิ 82 คน
(5) จังหวัดไซตามะ 73 คน รายละเอียดตามเอกสารแนบ
❖ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม หลายจังหวัดมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง ดังนี้
- กรุงโตเกียว มีผู้ติดเชื้อใหม่ 339 คน เป็นวันแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 300 คน / ผู้ติดเชื้ออายุระหว่าง 20-39 ปี รวม 183 คน หรือประมาณร้อยละ 54 / 40-59 ปี รวม 87 คน หรือประมาณร้อยละ 26 / ร้อยละ 64 จากจำนวนทั้งหมด (218 คน) ไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และร้อยละ 36 (121 คน) ติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ติดจากสมาชิกในครอบครัว (55 คน โดย 32 คนเป็นผู้หญิงและประมาณครึ่งหนึ่งติดเชื้อจากสามี) ติดจากสถานพยาบาลและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ 11 คน ติดจากที่ทำงาน 8 คน ติดเชื้อจากงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อน 7 คน และอื่น ๆ 27 คน
- จังหวัดโอซากา มีผู้ติดเชื้อใหม่ 132 คน นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน / ผู้ติดเชื้ออายุมากกว่า 60 ปี ประมาณร้อยละ 20 และมีผู้ป่วยอาการรุนแรง 63 คน / มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในตัวเมืองโอซากาโดยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 11 คน
- จังหวัดคานากาวะ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 104 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดในเมืองโยโกฮามาและคาวาซากิ / ผู้ป่วยเกือบทั้งหมด (100 คน) ไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง / มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ผับในสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเขตนากา เมืองโยโกฮามา เพิ่มขึ้นอีก 1 คน รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในผับดังกล่าวทั้งสิ้น 6 คน
- จังหวัดไอจิ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 82 คน โดยผู้ติดเชื้ออายุมากกว่า 60 ปี 39 คน / ผู้ติดเชื้อ 46 คนอยู่ในตัวเมืองนาโกยา โดยมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่โรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองนาโกยา นอกจากนี้ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 10 คนจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่สถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองฮันดะ
- จังหวัดไซตามะ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 73 คน โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23 คนจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่โรงงานในจังหวัด รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในโรงงานดังกล่าวทั้งสิ้น 32 คน
- จังหวัดเกียวโต มีผู้ติดเชื้อใหม่ 41 คน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผู้ติดเชื้อใหม่ 7 คนติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่สถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองเกียวโต
❖ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มีการประชุมการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในกรุงโตเกียวประจำสัปดาห์ โดยผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า สถานการณ์การติดเชื้อและการให้บริการด้านการแพทย์ ไม่เปลี่ยนแปลงมากจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พบผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสำรองจำนวนเตียงมากเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสาระสำคัญอื่น ๆ ดังนี้
- สถานการณ์การติดเชื้อมีความรุนแรงสูงที่สุด ได้แก่ “มีการระบาดของโรคติดเชื้อ” ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน
- มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 256 คนต่อวัน ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ยังอยู่ระดับที่สูง ยังคงมีการแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ในกรุงโตเกียว โดยที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ผู้ป่วยอาการรุนแรงประมาณครึ่งหนึ่งมีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป
❖ นาง KOIKE Yuriko ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อจากสมาชิกภายในบ้านยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสูงที่สุด (ร้อยละ 41) และยังพบกลุ่มที่ติดจากที่ทำงานและงานเลี้ยงสังสรรค์จำนวนมากเช่นกัน จึงขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มความระมัดระวังไม่นำเชื้อโรคไปติดผู้สูงอายุภายในบ้าน เช่น หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับแนวโน้มของผู้ติดเชื้อที่ลดลง นาง KOIKE ตอบว่า จำนวนที่ลดลงอาจเป็นผลมาจากจำนวนผู้ที่รับการตรวจ PCR ลดลงในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา โดยภายในสัปดาห์หน้า น่าจะทราบได้ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลโอบ้ง (เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ) มากหรือไม่
❖ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม นาย OMI Shigeru ประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย COVID-19 ของรัฐบาล ได้กล่าวในการสัมมนาด้านวิชาการของสมาคมโรคติดต่อแห่งญี่ปุ่นว่า อาจอนุมานได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในการแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยมีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังพัฒนาการหลังจากนี้ต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า ในปัจจุบันจะสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในการดำเนินกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจได้ค่อนข้างดีในระดับหนึ่งแล้วเมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกแรก แต่รัฐบาลก็ยังต้องหามาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในสังคมให้ได้เหลือศูนย์
❖ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เป็นต้นไป รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีสถานะพำนักระยะยาวทุกประเภทเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้ ภายใต้เงื่อนไขต้องตรวจ PCR เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นและต้องกักตัวอีก 14 วัน ทั้งนี้ รวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลเตรียมเพิ่มความสามารถในการตรวจ PCR ภายในท่าอากาศยาน 3 แห่ง เพื่อให้สามารถตรวจ PCR ได้ประมาณ 1 หมื่นคน/วัน