❖ วันที่ 28 กันยายน เวลา 20.30 น. มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในญี่ปุ่นจำนวน 287 คน หลังจากช่วงวันที่ 25-27 กันยายน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 576 / 643 / 485 คน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงน่าจะมีสาเหตุมาจากการตรวจเชื้อไม่มากในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ มีรายละเอียดจังหวัดที่สำคัญ ดังนี้
- กรุงโตเกียวมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่เพียง 78 คน ซึ่งลดลงต่ำกว่า 100 คน/วัน หลังจากช่วงวันที่ 25-27 กันยายน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อใหม่ 195 / 270 / 144 คน ตามลำดับ
- จังหวัดโอซากา 36 คน
- จังหวัดไซตามะ 20 คน
- จังหวัดไอจิ 19 คน
- จังหวัดฮอกไกโดและจังหวัดคานากาวะ 17 คน
- จังหวัดชิบะ 16 คน
❖ ในวันที่ 27 กันยายน มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ ญี่ปุ่น 485 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่น 82,299 คน / ผู้ป่วยอาการรุนแรง 160 คน เพิ่มขึ้น 4 คนจากวันก่อนหน้า / ผู้เสียชีวิต 1,550 คน เพิ่มขึ้น 3 คนจากวันก่อนหน้า จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ (1) กรุงโตเกียว 144 คน
(2) จังหวัดคานากาวะ 65 คน
(3) จังหวัดไอจิ 49 คน
(4) จังหวัดโอซากา 48 คน
(5) จังหวัดไซตามะ 35 คน รายละเอียดตามเอกสารแนบ
❖ รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจของวันที่ 27 กันยายน ดังนี้
- กรุงโตเกียว
• มีผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่โรงพยาบาล Hiroo มีทั้งนายแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยในของโรงพยาบาลรวม 5 คน โรงพยาบาลจึงกำลังตรวจ PCR ผู้เกี่ยวข้องอีก 122 คน
• เมื่อวันที่ 25-26 กันยายน พบนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ในทีมเบสบอล Hanshin Tigers ติดเชื้อรวม 8 คน โดยเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลรวม 4 คน ทั้งนี้ ผู้จัดการทีม Hanshin Tigers ให้สัมภาษณ์สื่อว่า คาดว่า การติดเชื้อน่าจะมาจากงานเลี้ยงสังสรรค์เมื่อวันที่ 19 กันยายน
- จังหวัดคานากาวะ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจากการแพร่ระบาดที่โรงพยาบาลในเมืองโยโกฮามา รวมผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 29 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและที่สถานเลี้ยงเด็กเล็ก โดยเมืองโยโกฮามากำลังตรวจ PCR ผู้ที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 80 คน
- จังหวัดไอจิ มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ร้านอาหาร และที่โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น เมืองนาโกยาจึงให้โรงเรียนปิดการเรียนการสอน ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน
- จังหวัดไซตามะ มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนที่ร้าน Philippine Pub “AJ” ในเมืองไซตามะ
❖ เมื่อวันที่ 25 กันยายน รัฐบาลญี่ปุ่นมีมติขยายกลุ่ม “Residence Track” ที่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ จากเดิมซึ่งมีเพียงกลุ่มนักธุรกิจ ให้รวมถึงนักเรียน ผู้ได้รับการตรวจลงตราสถานะติดตามครอบครัว และอื่น ๆ ด้วย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ประเทศ/ภูมิภาคที่เข้าข่าย คือ กลุ่มที่ญี่ปุ่นเริ่มใช้ “Residence Track” ด้วยแล้ว หรือกำลังจะเริ่มใช้ ซึ่งรวมถึงไทยด้วย ทั้งนี้ การอนุญาตให้เดินทางเข้าญี่ปุ่นข้างต้นจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป (incremental relaxation) ตามศักยภาพการตรวจ PCR ที่ท่าอากาศยานของญี่ปุ่น โดยบุคคลที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่นจะต้องได้รับการรับรองจากบริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องว่า ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นจะแสดงผลการตรวจเชื้อฯ เป็นลบก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น / จะปฏิบัติตามมาตรการกักตัว 14 วัน หลังจากที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นแล้ว / และไม่ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะในช่วง 14 วันแรกที่เดินทางถึงญี่ปุ่น
❖ คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลขอให้รัฐบาลหาแนวทางกระตุ้นให้ประชาชนระมัดระวังสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด 7 ข้อ หลังจากที่รัฐบาลจะรวมการเดินทางระหว่างกรุงโตเกียวกับจังหวัดอื่น ๆ เข้าไปภายใต้โครงการ Go To Travel ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป ได้แก่
1) งานเลี้ยงต่างๆ ที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจมีการส่งเสียงดังได้ง่าย
2) การไปเที่ยวสังสรรค์ยามค่ำคืน
3) การไม่สวมหน้ากากอนามัยเวลาสนทนา
4) การรวมกลุ่มกันในช่วงพักทำงานหรือหลังเลิกงาน
5) การใช้ชีวิตอยู่รวมกันตามหอพักของโรงเรียน
6) การออกกำลังกายที่ทำให้เกิดการหายใจรุนแรงในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี
7) การร่วมเดินทางโดยรถยนต์หรือการร่วมรับประทานอาหาร ก่อนหรือหลังการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่มีคนแออัด
❖ รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายขยายระยะเวลาการยื่นใบสมัครขอรับเงินสนับสนุนแก่พนักงาน SMEs ที่ไม่ได้รับเงินค่าจ้างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ จำนวนไม่เกิน 330,000 เยน/ราย ออกไปจนถึงปลายเดือนธันวาคม จากกำหนดเดิมปลายเดือนกันยายนนี้ โดยสามารถยื่นเอกสารในช่วงที่ไม่ได้รับเงินเป็นรายไตรมาส (เมษายน-มิถุนายน / กรกฎาคม-กันยายน / ตุลาคม-ธันวาคม)
.jpg)