




20/06/2013
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2556 เอกอัครราชทูตฯ ได้รับเชิญจากองค์กร International Friendship Exchange Council (FEC) ให้บรรยายเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นให้แก่สมาชิกระดับบริหารขององค์กรประมาณ 30 คน และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสมาชิก FEC โดย FEC เป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวกันของบริษัทขนาดใหญ่-กลางของญี่ปุ่นประมาณ 1,000 ราย ที่มีความสนใจในการลงทุนในต่างประเทศรวมทั้งไทย
สาระสำคัญของคำบรรยายของเอกอัครราชทูตฯ ระบุถึงความสัมพันธ์ในลักษณะเพื่อนเก่าและหุ้นส่วนที่ทันสมัย ที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ายาวนานกว่า 600 ปี เป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี โดยญี่ปุ่นเป็น
คู่ค้าและนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของไทย และในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาญี่ปุ่นมากขึ้นเป็นลำดับที่ 6 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่น และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นอีก ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางไปยังไทยเมื่อปี 2555 สูงกว่า 1.3 ล้านคน ซึ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
เอกอัครราชทูตฯ ยังได้กล่าวเชิญชวนญี่ปุ่นให้มาลงทุนในไทยโดยนำโอกาสทางเศรษฐกิจที่จะขยายมากขึ้นเมื่อมีการจัดตั้งประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ. 2015 ซึ่งญี่ปุ่นจะสามารถการเพิ่มพูนผลประโยชน์จากตลาดอาเซียนซึ่งมีจำนวนประชากรมากกว่า 600 ล้านคน และการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการที่เสรี และญี่ปุ่นสามารถได้ประโยชน์จากการลงทุนในไทยซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค และเป็นฐานการผลิตสินค้าและการเชื่อมโยงทางธุรกิจในตลาดอาเซียน และเชิญชวนไปลงทุนในโครงการเศรษฐกิจพิเศษทวายซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างมาก และรัฐบาลไทยกับเมียนมาร์ได้ลงนามความตกลงในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายร่วมกันเมื่อเดือน ก.ค. 2555 และมีการจัดตั้งกลไกการทำงานร่วมใน 3 ระดับ เพื่อขับเคลื่อนโครงการ ซึ่งจากโอกาสต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้บริษัทญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยได้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงในภูมิภาคด้วย