19/03/2021
เมื่อค่ำวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔ นายซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แถลงประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียว และ ๓ จังหวัด ได้แก่ ไซตามะ ชิบะ และคานากาวะ ให้สิ้นสุดในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๔ หลังจากได้ประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งพบว่าลดลงกว่าร้อยละ ๘๐ จากช่วงก่อนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๔ และสถานการณ์ทางการแพทย์ซึ่งสัดส่วนการใช้เตียงผู้ป่วยอยู่ในระดับ ๓ แล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดหลักการและมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ดังนี้
๑. หลักการป้องกันการขยายตัวของการระบาด ๕ หลักการ
๑.๑ การป้องกันการระบาดระหว่างการรับประทานอาหาร โดยขอให้ร้านอาหารลดระยะเวลาทำการโดยเปิดบริการได้ถึง ๒๑.๐๐ น. และดำเนินมาตรการป้องกันการระบาดตามแนวทางอย่างเคร่งครัด โดยรัฐบาลจะจัดสรรเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือวันละ ๔๐,๐๐๐ เยน ตลอดจนขอความร่วมมือประชาชนในการรวมตัวรับประทานอาหารไม่เกิน ๔ คน และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันจำนวนมากในช่วงฤดูชมดอกซากุระหรือการจัดงานเลี้ยงต้อนรับ-งานจบการศึกษา เป็นต้น
๑.๒ การรับมือกับเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ กลายพันธุ์ โดยยกระดับการสุ่มตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์ จากผู้ติดเชื้อใหม่ จากร้อยละ ๑๐ เป็นร้อยละ ๔๐ และมาตรการป้องกันชายแดนโดยจำกัดจำนวนผู้เดินทางเข้าประเทศ
๑.๓ การตรวจหาเชื้ออย่างมีกลยุทธ์ โดยขยายการตรวจเชื้อจากผู้ไม่มีอาการในเขตเมืองใหญ่ให้ได้วันละ ๕,๐๐๐ คน และขยายการตรวจหาผู้ติดเชื้อในบ้านพักคนชรา
๑.๔ การจัดการด้านวัคซีนอย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนผู้สูงอายุตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๔ และคาดว่าจะสามารถจัดหาวัคซีนได้อย่างน้อย ๑ ร้อยล้านโดสภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๖๔
๑.๕ ยกระดับความพร้อมทางการแพทย์เพื่อรองรับการขยายตัวของการระบาดครั้งต่อไป โดยสร้างระบบรองรับการรักษาผู้ติดเชื้อซึ่งจะจัดสรรเตียงผู้ป่วย เตียงผู้พักฟื้น ที่พักรักษาตัวของผู้อาการเบาและผู้รักษาตัวในที่พำนักของตนอย่างมีประสิทธิภาพ
๒. มาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศมาตรการเพื่อยกระดับการป้องกันชายแดน ฉบับที่ ๑๐ (New measures for border enforcement (10)) เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔ โดยระบุว่า จะยังคงใช้มาตรการยกระดับการป้องกันชายแดนตามที่ได้ประกาศไว้ในฉบับที่ ๗ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๔ ไปอีกระยะหนึ่ง แม้จะยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
๒.๑ ระงับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นตาม Business Track และ Residence Track เป็นการชั่วคราว
๒.๒ ระงับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นจากทุกประเทศเป็นการชั่วคราว (กรณีขอรับการตรวจลงตราใหม่)
๒.๓ ระงับมาตรการผ่อนปรนพิเศษ (special treatment) สำหรับผู้ที่กลับเข้าญี่ปุ่นจากการเดินทางไปติดต่อธุรกิจในต่างประเทศทุกประเทศเป็นการชั่วคราว ดังปรากฏตามเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น https://www.mofa.go.jp/press/release/press3e_000190.html
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นอาจปรับปรุงมาตรการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ท่านสามารถติดตามสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น และสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
จึงขอประกาศมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
(นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธ์ุ)
เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว