01/06/2021
ตามที่ญี่ปุ่นประกาศขยายช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ 6 จังหวัดจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นั้น
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ขอเรียนพัฒนาการเกี่ยวกับการขยายช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินใน 9 จังหวัด และสถานการณ์กึ่งฉุกเฉินใน 5 จังหวัด จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2564 ดังนี้
1. การประกาศขยายช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.00 น. นายซูกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แถลงประกาศขยายช่วงเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินใน 9 จังหวัดได้แก่ กรุงโตเกียว จังหวัดโอซากา เกียวโต เฮียวโกะ ไอจิ ฟูกูโอกะ ฮอกไกโด โอกายามะ และฮิโรชิมะจากเดิมที่จะสิ้นสุด
ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ให้ขยายไปจนถึงวันที่20 มิถุนายน 2564 พร้อมกับจังหวัดโอกินาวะ รวมจังหวัดที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินทั้งสิ้น 10 จังหวัด มีรายละเอียด ดังนี้
1.1. สาเหตุในการขยายช่วงเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
1.1.1. เนื่องจากต้องเฝ้าระวังไวรัสกลายพันธุ์มากขึ้น ที่ผ่านมา สัดส่วนผู้ติดเชื้อสายพันธุ์อังกฤษสูงถึงร้อยละ 80 และพบสายพันธุ์อินเดียในผู้ที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ นอกจากนี้ การลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ด้วยเหตุข้างต้นนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวัง มาตรการการกักตัวและตรวจเชื้อของผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย บังกลาเทศ มัลดีฟส์ เนปาล ปากีสถาน และศรีลังกา
1.1.2. แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศจะลดลง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่
ยังคงสูงขึ้น นอกจากนี้ จำนวนเตียงผู้ป่วยในจังหวัดโอซากาและเฮียวโกะยังอยู่ในขั้นวิกฤต ส่วนผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว
ยังเพิ่มขึ้นและการแพร่ระบาดยังคงอยู่ในระดับที่ 4 จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังเพิ่มเติม
1.2. การขอความร่วมมือประชาชน
1.2.1. นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นขอความร่วมมือประชาชนใน 2 ด้าน คือ การป้องกันการแพร่ระบาด และการฉีดวัคซีน
1.2.2. ขอความร่วมมือต่อเนื่องในการลดเวลาการเปิดทำการของร้านอาหารงดการจำหน่ายสุราในร้านอาหาร และงดบริการคาราโอเกะ สวมหน้ากากอนามัยในช่วงรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงคนแออัด และล้างมือบ่อย ๆ
1.3. ประเด็นเกี่ยวกับวัคซีน
1.3.1. รัฐบาลญี่ปุ่นจะฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2564และจะฉีดเพิ่มอีก 100 ล้านโดส ภายในเดือนกันยายน โดยหลังจากกลางเดือนมิถุนายนเป็นต้นไปจะเพิ่มศักยภาพการฉีดวัคซีนให้ได้ 1 ล้านโดสต่อวัน จากปัจจุบันประมาณ 4-5 แสนโดสต่อวัน
1.3.2. จะฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุให้เสร็จครบ 2 โดสภายในเดือนกรกฎาคม 2564และต้องการเริ่มฉีดให้กับประชาชนทั่วไปภายในเดือนมิถุนายน 2564
1.3.3. เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ให้บริการฉีดวัคซีนไม่เพียงพอ รัฐบาลได้อนุมัติให้ทันตแพทย์ร่วมดำเนินการฉีดด้วย และหลังจากนี้จะอนุมัติให้เจ้าหน้าที่เวชกิจฉุกเฉิน (EMT หรือ Emergency Medical Technician) และเจ้าหน้าเทคนิคที่ในห้องทดลอง (clinical laboratory technicians)เพิ่มเติม และจะจัดให้เภสัชกรตรวจร่างกายผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย
1.3.4. รัฐบาลกำลังพิจารณาและเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดทำVaccine Certificate โดยจะต้องคำนึงถึงประเด็นปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้เลือกที่จะไม่ฉีดหรือไม่สามารถฉีดวัคซีนได้และศึกษาข้อมูลว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันได้นานเพียงใดหลังการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นาย KATO Katsunobuเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับผิดชอบในเรื่องนี้
1.4. มาตรการทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจะต่ออายุเงินอุดหนุนค่าจ้างจนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 และจัดบริการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปี รวมถึงจะพยายามอย่างเต็มที่ในการให้เงินสนับสนุนธุรกิจ
2. การประกาศขยายสถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ)
2.1. ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังได้ประกาศขยายสถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) ใน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดไซตามะ ชิบะ คานากาวะ กิฟุ และมิเอะ ออกไปจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2564อย่างไรก็ดี ช่วงเวลาการประกาศสถานการณ์กึ่งฉุกเฉินในจังหวัดกุมมะ อิชิคาวะ และคุมาโมโตะ จะสิ้นสุดในวันที่ 13 มิถุนายน2564 ตามเดิม
2.2. อนึ่ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 รัฐบาลได้ยกเลิกประกาศมาตรการกึ่งฉุกเฉิน (มัมโบ) ในจังหวัดเอฮิเมะ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เนื่องจากสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นมาก
ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นอาจปรับปรุงมาตรการตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ท่านสามารถติดตามสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
**********